พระบรมฯ-องค์ภาทรงนําทีมสวมใส่สีฟ้าสะพรั่งทั้งประเทศทําลายสถิติโลก‘กินเนสส์บุ๊ก’
โลกร่วมจารึกวันแห่งประวัติศาสตร์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ทรงจักรยานนำขบวนประชาชน นับแสนทั่วประเทศ ร่วมกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ “Bike for Mom ปั่นเพื่อแม่” เป็นการแสดงความรักความสามัคคี โดยพสกนิกรพร้อมใจสวมเสื้อสีฟ้า ร่วมเปล่งคำ “ทรงพระเจริญ” ดังกึกก้อง ขณะที่กินเนสส์บุ๊กบันทึกสถิติการปั่นจักรยานของไทยครั้งนี้ 1.36 แสนคันทำลายสถิติไต้หวันราบคาบ
ประชาชนทุกเพศทุกวัยทั่วทุกสารทิศนำจักรยานคู่ใจเข้าร่วมกิจกรรมจักรยานเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ “Bike For Mom ปั่นเพื่อแม่” เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 83 พรรษา 12 สิงหาคม 2558 ตั้งแต่เช้าตรู่วันที่ 16 ต.ค. อย่างพร้อมเพรียง ด้วยใบหน้าอิ่มเอมใจที่ได้มีส่วนร่วมในการแสดงความจงรักภักดีและสร้างภาพประวัติศาสตร์ในการแสดงออก ซึ่งความรักความสามัคคีของลูกที่ต้องการทำเพื่อแม่ของแผ่นดิน
โดยใน กทม.ที่พระลานพระราชวังดุสิต ซึ่งเป็นจุดปล่อยตัว “กิจกรรม Bike For Mom ปั่นเพื่อแม่” ประชาชนที่ได้ลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติฯครั้งนี้ นำจักรยานคู่ใจสวมชุดปั่นจักรยานพระราชทาน “Bike For Mom ปั่นเพื่อแม่” นำบัตรประชาชน เลขรหัสประจำตัวเข้าขบวน เพื่อลงทะเบียนรับ Tag ประจำตัว และเลขรหัสประจำรถจักรยาน พร้อมรับทราบข้อแนะนำในการเข้าร่วมขบวนกันตามจุดที่กำหนดไว้อย่างคับคั่ง รวมถึงประชาชนทั่วไปร่วมใจกันสวมเสื้อสีฟ้า ติดเข็ม “Bike For Mom ปั่นเพื่อแม่” พระราชทาน มาจับจองพื้นที่ตามบนฟุตปาท 2 ฝั่งถนนศรีอยุธยา เส้นทางขบวนจักรยาน Bike For Mom ปั่นเพื่อแม่” ผ่าน เพื่อเฝ้ารับเสด็จ และชื่นชมพระบารมีสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ทรงจักรยานพระที่นั่ง นำขบวนพสกนิกรผู้เข้าร่วมกิจกรรมจักรยานเฉลิมพระเกียรติฯ ออกจากจุดเริ่มต้นพระลานพระราชวังดุสิต โดยเจ้าหน้าที่นำอาหาร ขนมของว่าง และน้ำดื่มพระราชทาน มาบริการให้กับประชาชนฟรีตามจุดต่างๆ ขณะที่บางส่วนมีการถ่ายรูปเซลฟี่กับพระบรมฉายาลักษณ์สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่เจ้าหน้าที่จัดขึ้นในการเฉลิมพระเกียรติฯ เพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึก แต่ละคนมีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสอย่างมีความสุขที่ได้ออกมาแสดงความจงรักภักดี เข้าร่วมกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติฯครั้งนี้
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารเริ่มปิดการจราจรรอบพระลานพระราชวังดุสิต ถนนอู่ทองใน ถนนศรีอยุธยา ถนนราชดำเนินนอก ไม่ให้รถยนต์ขนาดใหญ่ผ่าน และซักซ้อมลำดับขั้นตอนพิธีการต่างๆ ขณะเดียวกัน ประชาชนที่ไม่ได้มีการลงทะเบียนล่วงหน้า ได้เข้ามาลงทะเบียนเพิ่มเติมในหลายจุด เพื่อขอมีส่วนร่วมในกิจกรรมฯ ครั้งนี้ เช่น ที่สนามหลวง สนามมวยลุมพินีแห่งใหม่ ถนนรามอินทรา ขณะที่ตามจุดสำคัญในการรับลงทะเบียนผู้ร่วมกิจกรรมที่แจ้งไว้ล่วงหน้านั้น ปรากฏว่ามีคนนำจักรยานทยอยมาลงชื่อกันอย่างคึกคักตั้งแต่เช้า และเริ่มหนาแน่นขึ้นในช่วงสาย ไม่ว่าจะเป็นที่ลานพระราชวังดุสิต กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ (ร.11 รอ.) ม.เกษตรศาสตร์ ฯลฯ
ด้านประชาชนที่มาร่วมปั่นในขบวนและรอรับเสด็จตลอดเส้นทาง ต่างก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่ารู้สึกภาคภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในงานครั้งนี้ เช่น นายคำภา แก้วจีน อายุ 50 ปี ชาวบ้าน อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก ซึ่งพิการโรคโปลิโอตั้งแต่ 2 ขวบ ใช้รถ 3 ล้อโยก มารอปั่นร่วมขบวนที่ลานพระบรมรูปทรงม้า กล่าวว่า เดินทางจาก จ.พิษณุโลก ตั้งแต่วันที่ 20 ก.ค. มาพักกับเพื่อนในกรุงเทพฯ เพื่อที่จะได้ร่วมปั่นจักรยานถวายพระพรสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เพราะทรงเป็นแม่ของแผ่นดินที่ให้ประชาชน โดยไม่ต้องการอะไรตอบแทน จึงอยากให้ทุกคนทำความดีตอบแทนแผ่นดิน ตอบแทนพระมหากรุณาที่ทรงมอบให้ประชาชน ส่วนตัวดีใจมากที่ได้มาร่วมแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันถวายพระองค์ท่าน โดยอาการป่วยไม่ได้เป็นอุปสรรคในการโยกรถสามล้อที่ใช้มานาน 40 ปี ตนเดินทางนับตั้งแต่หน้าบันไดบ้านใน จ.พิษณุโลก ในระยะทางถึง 656 กิโลเมตร แต่ระยะทางไม่เป็นอุปสรรคกับความตั้งใจ
เช่นเดียวกับ นางพอใจ ตุ่นไว อายุ 58 ปี นำรถจักรยานมานั่งหลบแดดที่ลานพระบรมรูปทรงม้า ฝั่งสนามเสือป่า กล่าวว่า บ้านอยู่ย่านบางนา อยาก มาร่วมปั่นด้วย จึงให้ลูกเอาจักรยานใส่รถกระบะมาส่งในช่วงเช้า โดยจักรยานที่นำมาปั่นก็เป็นจักรยานที่ใช้ขี่ซื้อของจ่ายตลาดเป็นประจำ แม้เป็นรถราคาถูกๆ อาจจะปั่นได้ไม่เร็วเหมือนรถของคนอื่น แต่จะปั่นไปให้ถึงจุดหมายตามที่ตั้งใจ โดยมีหลานสาวมาร่วมปั่นเป็นเพื่อนด้วย บางคนปั่นไม่ไหวก็มานั่งเฝ้ารอรับเสด็จใกล้ๆ ได้เห็นทุกคนร่วมใจกันแล้วน่าปลื้มใจมาก
ไม่ต่างจากนางลำดวน สุรินทร์ชัย อายุ 67 ปี เดินทางมาพร้อม ด.ญ.อันนา ช่ออัญชัญ อายุ 6 ขวบ ที่นำจักรยานเด็กเล็กสีชมพู ติดป้ายข้อความทรงพระเจริญ ธงชาติ และธงไบค์ ฟอร์ มัม สีฟ้า ตะกร้ามีน้ำและขนมใส่ไว้จนเต็มมาจอดรวมอยู่กับจักรยานผู้ใหญ่ ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า มีคนเข้ามาขอถ่ายรูปและสอบถามด้วยความเอ็นดู โดยนางลำดวนเผยว่า พาหลานนั่งแท็กซี่มาจากบ้านย่านพระราม 9 เพราะหลานดูข่าวในทีวีทุกวันแล้วอยากมาร่วมปั่นจักรยาน ตนร่วมปั่นไม่ไหวแต่อยากรับเสด็จ จึงพากันมาสองคน ตั้งใจพาหลานปั่นตามขบวนประชาชนจากลานพระ บรมรูปทรงม้าไปให้ถึงหน้าวังสวนจิตรลดา วันนี้เป็นวันที่น่าปลื้มใจ เพราะมีประชาชนสวมเสื้อสีฟ้ามากันเยอะแยะ ขอถวายพระพรให้แม่ของแผ่นดินทรงมีพระพลานามัยแข็งแรง ขอให้คนไทยมีความสามัคคี เป็นคนดีทำดีถวายท่าน
นอกจากนี้ นางธัญวดี สกุลศรี อายุ 42 ปี ที่นำจักรยานเข้าร่วมขบวนฯ บอกว่า ตั้งใจมาปั่นจักรยานเพราะเป็นการแสดงความจงรักภักดีต่อสมเด็จพระราชินี แม่ของแผ่นดินและเจ้าฟ้าชาย ที่สำคัญเป็นการสร้างประวัติศาสตร์ของคนไทยที่แสดงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นที่เคารพสูงสุดของคนไทย โดยปั่นให้ครบทั้ง 43 กิโลเมตร ส่วนนางโกศล ศรีอาจ อายุ 69 ปี ชาวเขตลาดพร้าว ที่มาลงทะเบียนเพื่อร่วมงานปั่นเพื่อแม่ บอกว่า ปกติเป็นแม่บ้านเวลาออกไปจ่ายตลาดก็ใช้จักรยานเป็นประจำอยู่แล้ว แต่สิ่งสำคัญที่ตนอยากมาร่วมงาน เพราะถือเป็นประสบการณ์ในชีวิต และเป็นความภาคภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรม ได้ทำเพื่อสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ซึ่งตนขอถวายพระพรให้พระองค์ทรงพระเจริญ มีพระพลานามัยแข็งแรง
กระทั่งเวลา 15.01 น. สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ยังลานพระราชวังดุสิต โดยทรงจักรยานพระที่นั่งสีแดง จากพระที่นั่งอัมพรสถาน ทรงเป็นประธานเปิดกิจกรรมจักรยานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรม ราชินีนาถ “Bike for Mom ปั่นเพื่อแม่” มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะกรรมการจัดกิจกรรมจักรยานเฉลิมพระเกียรติฯ และผู้เข้าร่วมกิจกรรม เฝ้ารับเสด็จฯ ซึ่งหลังจาก พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กราบบังคมทูลถวายจุดประสงค์การจัดกิจกรรม เพื่อแสดงถึงความรักของลูกที่มีต่อมารดา และเป็นการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ แสดงความจงรักภักดี และความรักต่อแม่ของแผ่นดิน ส่งเสริมการออกกำลังกายให้มีร่างกายแข็งแรง โดยมีผู้ลงทะเบียนร่วมกิจกรรมฯทุกจังหวัดทั่วประเทศกว่า 2.9 แสนคน ซึ่งเฉพาะในกรุงเทพฯ มีคนลงทะเบียนร่วมกิจกรรมกว่า 4 หมื่นคน ร่วมปั่นในระยะทาง 43 กิโลเมตร และในทุกจังหวัด 2.5 แสนคน ร่วมปั่นในระยะทาง 25-40 กิโลเมตร โดยจัดกิจกรรมคู่ขนานพร้อมกับส่วนกลาง
จากนั้นเวลา 15.18 น. สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงกดแตรสัญญาณเริ่มขบวนจักรยานเฉลิมพระเกียรติฯ และทรงจักรยานพระที่นั่ง นำขบวน พสกนิกรผู้เข้าร่วมกิจกรรมจักรยานเฉลิมพระเกียรติฯ ออกจากจุดเริ่มต้นลานพระราชวังดุสิต ไปยังกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ฯ ถนนวิภาวดีรังสิต โดยขณะทรงจักรยานยังจุดสตาร์ต พสกนิกรที่เฝ้ารับเสด็จได้เปล่งเสียงทรงพระเจริญพร้อมโบกธงสีฟ้าตลอดทาง ทรงหันพระพักตร์มองพสกนิกรพร้อมแย้มพระสรวลให้และยกพระหัตถ์ทักทาย ขณะที่ขบวนของพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้า พัชรกิติยาภา เคลื่อนตามหลังผ่านจุดสตาร์ตเวลา 15.20 น.
ทั้งนี้ในเวลา 15.30 น. สมเด็จพระบรม โอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงจักรยานผ่านจุดพัก ช่วงที่ 8 อนุสาวรีย์ชัย-สามเหลี่ยมดินแดง ณ ห้องสมุดประชาชน บริเวณซอยพระนาง (ราชวิถี 4) โดยบรรยากาศระหว่าง 2 ข้างทาง มีประชาชนสวมเสื้อฟ้าเฝ้ารับเสด็จอย่างเนืองแน่น โดยประชาชนได้ร่วมกันโบกธงสีฟ้า และกล่าว “ทรงพระเจริญ” อย่างพร้อมเพรียงตลอดเวลาขบวนเสด็จผ่าน ซึ่ง ณ จุดนี้มีการจัดทำสถิติความร่วมมือร่วมใจของปวงชนชาวไทยในกิจกรรมปั่นจักรยานเฉลิมพระเกียรติครั้งนี้โดยกินเนสส์บุ๊ก เวิลด์ เรคคอร์ดอีกด้วย ซึ่งเกณฑ์กินเนสส์บุ๊ก เวิลด์ เรคคอร์ดนั้น ขบวนจักรยานต้องเริ่มออกจากจุดเริ่มต้นพร้อมกันทั่วประเทศ จากลานพระราชวังดุสิต ถึงที่ปากซอยราชวิถี 6 ซึ่งเป็นการปั่นจักรยานต่อเนื่องระยะทาง 4 กม. แต่กระทั่งเวลา 16.30 น. ท้ายขบวนจักรยานฯ ที่มีความยาวหลายสิบ กม. ยังอยู่บริเวณถนนราชดำเนินนอก
เวลา 15.35 น. สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จฯถึงกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ฯ จากนั้นเสด็จฯไปยังบริเวณด้านหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 พ.อ.อาสาศึกขันติรัตน์ ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ฯ กราบบังคมทูลถวายรายงานแล้วเสด็จฯ เข้าสู่เต็นท์ที่ประทับ เวลา 15.39 น.พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา เสด็จถึงพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว แล้วเสด็จฯเข้าสู่เต็นท์ที่ประทับ จากนั้นทั้งสองพระองค์ เสด็จออกจากเต็นท์ที่ประทับ ทรงวางพานพุ่ม ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว แล้วทรงจักรยานพระที่นั่งไปยังอาคารสโมสรนายทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ เสด็จฯเข้าสู่ห้องประทับรับรอง กระทั่งเวลา 16.00 น. เสด็จฯออกจากห้องประทับรับรอง ทรงจักรยานพระที่นั่ง นำขบวนพสกนิกรผู้เข้าร่วมกิจกรรมต่อไปยัง ม.เกษตรฯ
สำหรับบรรยากาศตามเส้นทางเสด็จฯ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประชาชนจำนวนมากสวมเสื้อฟ้า มาปักหลักรอเฝ้าชมพระบารมีและร่วมรับเสด็จเป็นจำนวนมาก เช่นเดียวกับที่บริเวณทางเข้าประตู 2 ของ นสพ.ไทยรัฐ ถนนวิภาวดีรังสิตขาออก ที่มีพนักงานของ นสพ.ไทยรัฐ และประชาชนละแวกใกล้เคียงสวมเสื้อยืดสีฟ้าทยอยเดินทางมารวมตัวกันหน้าบริเวณประตู 1, 2 และ 3 เพื่อรอรับเสด็จ ขณะที่ทรงจักรยานผ่าน โดยทุกคนพร้อมใจเปล่งคำว่า “ทรงพระเจริญ” ดังสนั่น ซึ่งสมเด็จพระบรม โอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงแย้มพระสรวล และยกพระหัตถ์ขวาทรงทำวันทยหัตถ์ให้กับผู้มารอรับเสด็จ อย่างไม่ถือพระองค์
จากนั้น สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยาม มกุฎราชกุมาร ทรงจักรยานนำคณะบุคคล และประชาชน เข้าไปในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ทางประตูถนนวิภาวดีรังสิต เลี้ยวขวาผ่านสนามฟุตบอล แยกสาธิตเกษตร อาคารเสรีไตรรัตน์ แยกโครงการหลวง สำนักพิพิธภัณฑ์และวัฒนธรรมการเกษตร สนามอินทรีย์–จันทรสถิตย์ อาคารหอประวัติมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ แยกคหกรรมศาสตร์ อาคารวิทยพัฒนา แยกประตูงามวงศ์วาน 1 อนุสาวรีย์สามบูรพาจารย์ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร อาคารศาลาหกเหลี่ยม สระน้ำหอประชุม และออกประตูพหลโยธิน 2 รวมระยะทาง 2.4 กิโลเมตร ต่อด้วยขบวนจักรยานของพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ท่ามกลางเสียงทรงพระเจริญดังอย่างกึกก้อง ขณะที่วงเคยู วินด์ ก็บรรเลงและขับร้องเพลงปั่นจักรยานถวายในระหว่างปั่นผ่านด้วย และสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงจักรยานเสด็จฯถึงกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ ถนนพหลโยธิน เขตบางเขน ในเวลา 16.45 น. ท่ามกลางพสกนิกรจำนวนมากที่เฝ้ารอรับเสด็จทั้งสองข้างทางตั้งแต่ด้านหน้าประตูทางเข้า โดยทุกคนก็พร้อมใจกันโบกธงไตรรงค์ และธง
ไบค์ ฟอร์ มัม สีฟ้า สะพัดเป็นภาพที่สวยงามอย่างยิ่ง พร้อมกันนี้ต่างพร้อมใจกันเปล่งเสียง “ทรงพระเจริญ” ดังก้องไปทั่วบริเวณ ขณะเดียวกัน สมเด็จพระบรม โอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงทำวันทยหัตถ์และทรงโบกพระหัตถ์ให้พสกนิกรที่มารอรับเสด็จอยู่เป็นระยะ ยังความปลื้มปีติให้ผู้มารอรับเสด็จอย่างหาที่สุดมิได้
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า หลังจากสมเด็จพระบรม โอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และพระเจ้า หลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ทรงประกอบพิธีถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว และประทับพระราชอิริยาบถ ตามพระราชอัธยาศัย และประทับพระอิริยาบถตามพระอัธยาศัย ณ อาคารกรมทหารล้อมวัง รศ.123 กระทั่งเวลาประมาณ 17.37 น. ทั้งสองพระองค์ก็ทรงจักรยาน นำขบวนพสกนิกรปั่นเพื่อแม่กลับไปยังจุดเริ่มต้นที่พระลานพระราชวังดุสิต โดยมีขบวนจักรยานที่รอรับเสด็จในกรมทหารราบ 11 รอ. ทำวันทยหัตถ์ ก่อนที่จะปั่นตามเสด็จฯออกไป โดยสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงจักรยานพระที่นั่ง นำขบวนเอ กลับถึงลานพระราชวังดุสิต ในเวลา 19.09 น. ท่ามกลางพสกนิกรเฝ้ารอรับเสด็จร่วมกันเปล่งคำทรงพระเจริญตลอดสองฝั่งถนน โดยขบวนจักรยานที่ตามเสด็จฯ เป็นแถวยาวเหยียดเปิดไฟท้ายสีแดงกะพริบส่องแสงระยิบระยับสวยงาม และเวลา 19.14 น. พระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ทรงนำขบวนบี มาถึง
จากนั้นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พล.อ.ประยุทธ์ และคณะกรรมการจัดกิจกรรมจักรยานเฉลิมพระเกียรติฯ เข้าเฝ้าฯ และทรงจักรยานพระที่นั่ง ไปยังสนามเสือป่า บริเวณจัดนิทรรศการจักรยานเฉลิมพระเกียรติฯ ทอดพระเนตรภาพพระราชกรณียกิจทรงจักรยาน ในกิจกรรมจักรยานเฉลิมพระเกียรติฯ “Bike for Mom ปั่นเพื่อแม่” ทอดพระเนตรการแสดงดนตรีจากนักดนตรี 3 เหล่าทัพ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกรมศิลปากร รวม 83 คน จำนวน 3 เพลง ประกอบด้วย เพลงสมเด็จ เพลงมหาวชิราลงกรณ และเพลงคิดถึง จากนั้นจึงเสด็จฯกลับ
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับกิจกรรมจักรยานฯ ในครั้งนี้ นอกจากนายกรัฐมนตรี พร้อมภริยา และคณะรัฐมนตรีแล้ว ยังมีนักการเมือง-คนดังจากวงการต่างๆร่วมกิจกรรมในพื้นที่ กทม.อีกจำนวนมาก อาทิ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย พร้อมสมาชิกพรรคเพื่อไทย นำโดย น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ นางพวงเพชร ชุนละเอียด นายยุรนันท์ ภมรมนตรี นายอนุสรณ์ ปั้นทอง นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ นายสุรชาติ เทียนทอง นางพิมชนา โหสกุล ที่มาร่วมกิจกรรม “Bike for Mom ปั่นเพื่อแม่” ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ขณะที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมอดีต ส.ส. อดีต ส.ข. อดีต ส.ก.และสมาชิกพรรคประมาณ 150 คน อาทิ คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค นายสรรเสริญ สมะลาภา อดีต ส.ส.กทม. รวมตัวกันที่บริเวณโรงเรียนวัดปรินายก แยกสะพานผ่านฟ้าลีลาศ เพื่อมาปั่นร่วมขบวนจากลานพระบรมรูปทรงม้า
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในขบวนจักรยานฯ มีศิลปินดาราทั่วฟ้าเมืองไทยมารวมตัวแสดงพลังในการปั่นเพื่อแม่ ไม่ว่าจะเป็นค่าย “แกรมมี่-แกรมมี่โกลด์” ที่นำโดย พลพล-ทชภณ พลกองเส็ง, มอส-ปฏิภาณ ปฐวีกานต์, กัน-นภัทร อินทร์–ใจเอื้อ, หญิงลี-ธิดารัตน์ ศรีจุมพล ฯลฯ ขณะที่ค่าย “อาร์เอส” นำโดย มด-ณปภัช วัฒนากมลวุฒิ, กุ้ง-สุธิราช วงศ์เทวัญ, ลูลู่-ลาล่า, บ่าววี ฯลฯ
ช่อง 7 สี ส่งทัพนักแสดง นำโดยนางเอกสาว แพนเค้ก-เขมนิจ จามิกรณ์, พระเอกหนุ่ม นิว- วงศกร ปรมัตถากร ฯลฯ และตามด้วยทัพผู้ประกาศข่าวและพนักงานรวมกว่า 50 ชีวิต ที่ต่างพร้อมใจสวมเสื้อสีฟ้าและติดเข็มกลัดพระราชทาน Bike for Mom ปั่นจักรยานคู่ใจร่วมกับประชาชนทั่วไปจากจุดเริ่มต้นลานพระราชวังดุสิตไปจนถึงกรมทหารราบที่ 11 รอ. อีกทั้งยังมีบุคคลในวงการบันเทิงอื่นๆ อาทิ หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล, ปัญญา นิรันดร์กุล, ประภาส ชลศรานนท์ พร้อมศิลปินในสังกัดเวิร์คพอยท์ นัท-ณัฎฐ์ กิจจริต, อาร์ม-กรกันต์ สุทธิโกเศศ ศิลปินไมค์ทองคำ โจอี้ บอย, ติ๊ก ชีโร่ ฯลฯ ทั้งนี้ กัน-นภัทร อินทร์ใจเอื้อ เผยว่ารู้สึกตื่นเต้น เพราะไม่เคยมีการจัดการปั่นจักรยานที่ยิ่งใหญ่อย่างนี้มาก่อน นอกจากเรื่องของสุขภาพที่ดีแล้ว กิจกรรมนี้ยังเป็นการแสดงออกถึงพลังความสามัคคีของคนไทยอีกด้วย ขณะที่ มด-ณปภัช กล่าวว่าขอเป็นตัวแทนของพลังหญิงทุกคน ซึ่งเห็นผู้หญิงออกมาปั่นจักรยานเยอะมาก ที่สำคัญมาเป็นคู่แม่ลูก เป็นภาพน่ารัก เป็นประวัติศาสตร์ที่น่าจดจำ คนไทยหลายล้านคน มาร่วมเฉลิมพระเกียรติแม่ของแผ่นดิน มาร่วมสร้างพลังความสามัคคี ทำสิ่งดีด้วยกัน
ต่อมา นายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ ที่ปรึกษาคณะอนุกรรมการฝ่ายจัดงานกิจกรรมพิเศษโครงการ “ไบค์ ฟอร์ มัม ปั่นเพื่อแม่” กล่าวว่า ตั้งแต่เช้ามืดประชาชนหลั่งไหลเข้ามาจับจองพื้นที่ริมฟุตปาทตามเส้นทางเสด็จฯ เพื่อร่วมเขียนประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของเมืองไทย ความรักของลูกที่มีต่อแม่ให้เผยแพร่ไปทั่วโลก ที่น่าประทับใจที่สุดคือบริเวณกรมทหารราบที่ 11 ประชาชนที่อยู่จุดนี้จะได้เห็นภาพพาโนรามาชัดเจนที่สุด ผ่านจอแอลซีดีขนาดยักษ์“ทั้งนี้ มีผู้สนองงานใกล้ชิดสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ โทรศัพท์มาเล่าให้ฟังว่า พระองค์ทรงตื่นเต้นกับกิจกรรมที่ประชาชนทั่วเมืองไทยมาแสดงความจงรักภักดีและถวายพระพร พระองค์ทรงปลาบปลื้มพระราชหฤทัยที่เห็นประชาชนตื่นตัวออกมาร่วมกิจกรรมปั่นเพื่อแม่และพระองค์ทอด พระเนตรกิจกรรมครั้งนี้ผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจตั้งแต่เวลา 14.00 น. กระทั่งเสร็จพิธีการทั้งหมด” นายสุริยันกล่าว
สำหรับบรรยากาศการเข้าร่วมกิจกรรมจักรยานเฉลิมพระเกียรติฯของประชาชนทั่วประเทศ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าคึกคักล้นหลามไม่แพ้กัน และในพื้นที่ติดชายแดน ก็ยังมีประชาชนจากประเทศเพื่อนบ้าน เดินทางมาร่วมในกิจกรรมฯนี้ด้วย โดยที่ จ.บุรีรัมย์ นายเสรี ศรีหะไตร ผวจ.บุรีรัมย์ นำทีมข้าราชการและชาวบุรีรัมย์พร้อมใจสวมใส่เสื้อสีฟ้าเข้าร่วมกิจกรรมปั่นเพื่อแม่ และมีนายวาด ปารานิน รอง ผวจ.อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา นำคณะเข้าร่วมปั่นจักรยานด้วยจุดเริ่มต้นปล่อยนักปั่นที่ศาลากลางจังหวัดวิ่งรอบตัวเมืองระยะทางรวม 25.3 กิโลเมตร มีผู้สนใจลงทะเบียนร่วมกิจกรรม 2,800 คน นายเสรีเปิดเผยว่า ประชาชนชาวบุรีรัมย์ต่างให้ความสนใจเข้าร่วมกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติแสดงออกถึงความจงรักภักดี ทั้งยังสร้างความกระชับความสัมพันธ์ระหว่างชาวบุรีรัมย์และชาวกัมพูชาให้ดียิ่งขึ้น เช่นเดียวกับที่สนามหน้าศาลากลาง จ.ตราด ประชาชนนำรถจักรยานมารับบริการตรวจซ่อมบำรุงที่ทางวิทยาลัยเทคนิคตราดและวิทยาลัยสารพัดช่าง จ.ตราด มาให้บริการฟรี เพื่อความพร้อมร่วมกิจกรรมปั่นเพื่อแม่ เจ้าหน้าที่เปิดให้ประชาชนลงทะเบียนตั้งแต่เวลา 08.00 น. และปั่นจักรยานเทิดพระเกียรติฯในเวลา 15.00 น.โดยพร้อมเพรียง
ที่หน้าด่านพรมแดนอรัญประเทศ จ.สระแก้ว มีนักท่องเที่ยวชาวเวียดนามและกัมพูชาหลายร้อยคนเดินทางข้ามจากฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา เข้ามาฝั่งไทย โดยมี พ.ต.ท.เบญจพล รอดสวาสดิ์ รอง ผกก.ตม.สระแก้ว ร่วมกับ ร.อ.อภินันท์ สงครามชัย ผบ.ร้อย ทพ.1201 นำกำลังอำนวยความสะดวกและตรวจสอบเอกสาร โดยนักท่องเที่ยวชาวเวียดนามและกัมพูชาต่างบอกว่าต้องการเดินทางไปชมกิจกรรม “ปั่นเพื่อแม่” ในกรุงเทพฯ เนื่องจากมีการประชาสัมพันธ์ไปทั่วโลกว่าจะมีการลงบันทึกกินเนสส์บุ๊ก ทำให้อยากเห็น ความยิ่งใหญ่อลังการในครั้งนี้ด้วย จึงนัดแนะกันเดินทางเข้ามาเที่ยวในไทย โดยเช่าเหมารถตู้จากตลาดโรงเกลือไปส่งที่กรุงเทพฯหลายสิบคัน
ที่บริเวณลานจอดรถหน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา นายธงชัย ลืออดุลย์ ผวจ.นครราชสีมาและนายบุญยืน คำหงส์ รอง ผวจ.พร้อมด้วยนายชาญชัย บัวสรวง ประธานสโมสรกีฬาจักรยานจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วยประชาชนชาว จ.นครราชสีมาลงทะเบียนเพื่อเข้าร่วมกิจกรรมปั่นเพื่อแม่เป็นจำนวนมาก โดยมียอดผู้เข้าร่วมปั่น 7,168 คน จุดเริ่มที่อนุสาวรีย์ ร.5 หน้าศาลากลางจังหวัดวิ่งผ่านสนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาฯ แล้ววกรถกลับมาที่เดิมระยะทาง 29 กม. ส่วนที่ จ.อุดรธานี ร.ต.ท.ฉลอง ยอดสง่า รอง สว.สส.สภ.หนองหาน จ.อุดรธานี ร่วมกับผู้นำชุมชนและเด็กนักเรียนบ้านโคกทุ่งตั้ง หมู่ 4 ต.โพนงาม อ.หนองหาน จ.อุดรธานี จัดกิจกรรมปั่นเพื่อแม่ โดย ร.ต.ท.ฉลองกล่าวว่า ชาวบ้านและเด็กไม่ไปเข้าร่วมจัดกิจกรรมปั่นเพื่อแม่ที่ทางจังหวัดอุดรธานีจัดขึ้น ตนมองเห็นความสำคัญในเรื่องการปลูกฝังในสิ่งที่ดีให้กับเด็กและเยาวชนจึงจัดกิจกรรมปั่นเพื่อแม่ขึ้นให้กับเด็กในชุมชน กิจกรรมในครั้งนี้มีเด็กและเยาวชนผู้นำชุมชนเข้าร่วมนับ 100 คนใช้ระยะทางปั่น 18 กม.และมีกิจกรรมปลูกต้นไม้ในพื้นที่ด้วย
ส่วนที่จุดปล่อยตัวหน้าศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี มีการนำต้นเทียนพรรษาที่ได้รับรางวัลการประกวดปีนี้มาตั้งประดับเวทีใหญ่หน้าศาลากลางจังหวัด ขณะที่ประชาชนทยอยนำจักรยานเข้ามาลงทะเบียนตั้งแต่เช้า โดยมีนักปั่นจำนวน 5,100 คน แบ่งออกเป็น 5 ขบวน ส่วนประชาชนที่ไม่ลงทะเบียน แต่ต้องการเข้าร่วมกิจกรรม ทางจังหวัดได้รับลงทะเบียนโดยจะปล่อยเป็นขบวนสุดท้าย โดยเริ่มปั่นจักรยานจากหน้าศาลากลางจังหวัด ไปตามถนนแจ้งสนิท จนถึงอุทยานบึงบัว ต.หนองขอน ก่อนวกกลับมาที่หน้าศาลากลางจังหวัด รวมเป็นระยะทาง 30 กม.เมื่อขบวนจักรยานถึงอุทยานบึงบัว ชาวอุบลราชธานีจะร่วมใจกันปลูกต้นไม้เฉลิมพระเกียรติ พร้อมชมการแสดงหมอลำจากศิลปินแห่งชาติ
ป.ฉลาดน้อย
ที่หน้าเทศบาลตำบลแม่เงิน อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ช่วงเช้าวันเดียวกัน นายพินิจ แก้วจิตคงทอง นายอำเภอเชียงแสน นายดำรงค์ จันแปงเงิน นายกเทศมนตรีตำบลแม่เงิน พ.ต.อ.บุญวาศน์ มังคราช ผกก.สภ.บ้านแซว นำผู้สูงอายุ อสม.ทั้ง 12 หมู่บ้าน ประชาชนและผู้นำท้องถิ่นกว่า 300 คน ร่วมกิจกรรม Bike for Mom “ปั่นเพื่อแม่” ตั้งแต่หน้าสำนักงานเทศบาลตำบลแม่เงิน ไปตามถนนสายเชียงของ-เชียงแสน ถึงสามแยกบ้านแซว เลี้ยวขวาไปตามถนนบ้านใหม่ท่าขันทอง-บ้านปงของ รวมระยะทาง 15 กม. ท่ามกลางสายฝนโปรยปรายตลอดเส้นทาง นายพินิจ กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่เห็นในขบวนปั่นจักรยานมีผู้สูงวัยอายุกว่า 70 ปีมาร่วมปั่นจักรยานหลายคน ด้านนายคำปัน กาลิน อายุ 77 ปี กล่าวว่า หลังทราบว่ามีกิจกรรมปั่นเพื่อแม่ ได้ไปหาซื้อรถจักรยานมาปั่นฝึกออกกำลังกายทุกวันเพื่อให้กำลังอยู่ตัว มั่นใจว่าปั่นได้ไกลไม่ยอมขึ้นรถกลับแน่นอน เช่นเดียวกับ ด.ช.ภูวเบศก์ อำขำ อายุ 5 ขวบ ที่มาร่วมปั่นกับผู้เป็นพ่อกล่าวว่า ทราบจากโรงเรียนว่าจะมีการปั่นเพื่อแม่จึงขอร่วมปั่นจักรยานด้วยพ่อก็อนุญาตและซื้อจักรยานให้ 1 คันมาร่วมกิจกรรมในวันนี้ มั่นใจว่าจะปั่นร่วมกับทุกคนได้
ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา อ.เมืองเชียงใหม่ มีประชาชนลงทะเบียนตั้งแต่เวลา 10.00 น.โดยมีผู้มาลงทะเบียนล่วงหน้าไว้แล้วกว่า 7 พันคน และนักปั่น 2 พันคนแรกจะมีการจดบันทึกลงสถิติโลกของ Guinness Book World Records โดยจักรยานทุกคันจะมีบาร์โค้ดติดไว้สแกนผ่านจุดสตาร์ตและจุดสิ้นสุดเพื่อบันทึกจำนวนของจักรยาน ซึ่งจักรยานที่ปั่นเพื่อร่วมทำสถิติครั้งนี้จะต้องปั่นเป็นรูปแบบเหมือนขบวนพาเหรด ไม่มีการขาดช่วงและไม่เร็วหรือช้าจนเกินไป ด้านนายสุริยะ ประสาท–บัณฑิตย์ ผวจ.เชียงใหม่ กล่าวว่า สายวันนี้เชียงใหม่มีแดดจ้าท้องฟ้าสดใส ประชาชนสวมเสื้อสีฟ้ามาร่วมกิจกรรมกันคึกคัก ทุกภาคส่วนเตรียมความพร้อมทุกด้านแล้ว
ส่วนที่ จ.นครศรีธรรมราช กลุ่มนักปั่นจักรยานจากทั้ง 23 อำเภอ ทยอยปั่นรถออกจากแต่ละอำเภอมารวมตัวหน้าศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช กันอย่างคึกคักตั้งแต่เช้า เพื่อร่วมกิจกรรมปั่นเพื่อแม่พร้อมกันทั่วประเทศในเวลา 15.00 น. ด้านนายศิริพัฒ พัฒกุล รอง ผวจ.นครศรีธรรมราช กล่าวว่า มีประชาชนลงทะเบียนร่วมกิจกรรมแล้วกว่า4,000 คน โดยมีการจดบันทึกสถิติโลกกินเนสส์เวิลด์ เรคคอร์ดด้วย
ที่ จ.ยะลา ประชาชนเดินทางลงทะเบียนร่วมปั่นเพื่อแม่ที่จุดลงทะเบียนบริเวณศาลากลางจังหวัดยะลากันอย่างคึกคักตั้งแต่ช่วงเช้า ขณะที่นายสามารถ วราดิศัย ผวจ.ยะลา นำขบวนจักรยานประมาณ 200 คัน ร่วมปั่นจักรยานเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และบันทึกข้อมูลลงในกินเนสส์ เวิลด์ เรคคอร์ด ด้วย โดยยืนยันว่ามีขบวนจักรยานเข้าร่วมกิจกรรมปั่นเพื่อแม่ไม่ต่ำกว่า 1,200 คัน
Microsoft เผยผลสำรวจ 10 อาชีพในอนาคตที่ผู้บริหารกลัวขาดคนในยุค AI
Bitkub HODL Day: สร้างวัฒนธรรมองค์กรอย่างสร้างสรรค์ ผ่านกีฬาสีที่ไม่เหมือนใครในแบบฉบับ “บิทคับ กรุ๊ป”
Orchidjobs บริการสรรหาพนักงานครบวงจร
สภาพัฒน์ฯ เผยผลสำรวจผู้บริหาร 74% ไม่จ้างพนักงานไร้ทักษะ AI ปัจจุบันคนไทยว่างงาน-หนี้เกินตัว ใช้โซเชียลกู้ยืมนอกระบบ
หางานตามสาขาอาชีพ
JOBBKK.COM © สงวนลิขสิทธิ์ All Right Reserved
jobbkk มีเพียงเว็บเดียวเท่านั้น ไม่มีเว็บเครือข่าย โปรดอย่าหลงเชื่อผู้แอบอ้าง และหากผู้ใดแอบอ้าง ไม่ว่าทาง Email, โทรศัพท์, SMS หรือทางใดก็ตาม จะถูกดำเนินคดีตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด 
