เจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัวผู้ต้องหาฆ่าข่มขืนสาวราชภัฏฯ ทำแผน ชาวบ้านที่มารอดูตะโกนสาปแช่งผู้ต้องหา โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
วันนี้ (20 ม.ค.60) เวลา 12.30 น. พ.ต.อ.นิมิตร แสงอรุณ รอง ผบก.ภ.จ.สุพรรณบุรี พ.ต.อ. วิสูตร สถิตย์ ผกก.สภ.ทุ่งคอก อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี นำกำลังตำรวจ สภ.ทุ่งคอก อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี กว่า 30 นาย ควบคุมตัวนายกฤษฎา ใจเอื้อย อายุ 20 ปี ผู้ต้องหาฆ่าข่มขืนนักศึกษาสาวราชภัฏ ที่รู้จักเหยื่อผ่านทางเฟซบุ๊ก ชวนฝ่ายหญิงมาทำพิธีครอบครู ก่อนจะขอมีเพศสัมพันธ์ ฝ่ายหญิงไม่ยอม ออกอุบายลวงกินน้ำผสมยาฆ่าหญ้า ให้เหยื่อมึนจะได้หมดแรง ก่อนลงมือข่มขืนเหยื่อจนเสียชีวิต แล้วนำศพไปทิ้งบนคันนาเพื่ออำพรางคดี
ขณะที่เจ้าหน้าที่คุมตัวทำแผนชาวบ้านบางคนตะโกนด่าสาปแช่งผู้ต้องหา ส่วนทางญาติเหยื่อไม่มาร่วมดูการทำแผน ตำรวจใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง หลังเสร็จการทำแผนตำรวจได้คุมตัวผู้ต้องหากลับห้องคุมขัง สภ.ทุ่งคอก
เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ก่อนเกิดเหตุได้นัดเจอกันเพื่อทำพิธีครอบครูที่สำนัก โดยทางฝ่ายหญิงได้เดินทางนั่งรถโดยสารมาจากบ้าน อ.ดอนตูม จ.นครปฐม แล้วผู้ต้องหาขี่รถจักรยายนต์มารับที่ตลาดทุ่งคอก เพื่อรับเหยื่อไปที่สำนัก ร่างทรงปู่เสือ กระทั่งฝ่ายหญิงบอกว่าปวดท้อง จากนั้นผู้ต้องหาขอฝ่ายหญิงมีเพศสัมพันธ์ แต่ฝ่ายหญิงไม่ยินยอม ฝ่ายชาย จึงออกอุบายว่าจะหายาแก้ปวดท้องให้กิน แต่ผู้ต้องหาได้เอายาฆ่าแมลงผสมน้ำเปล่าให้ดื่ม จนเหยื่อมีอาการมึนเมา ไม่มีแรงต่อสู้
นายกฤษฎาผู้ต้องหา จึงอาศัยจังหวะลงมือข่มขืนจนสำเร็จหน้าแท่นพิธีครอบครู จนกระทั่งฝ่ายหญิงนอนชัก น้ำลายฟูมปากและเสียชีวิต ผู้ต้องหาจึงนำศพเหยื่อขึ้นใส่รถลากไปกับรถจักรยานยนต์แล้วเอาไปทิ้งไว้บนคันนาในจุดที่เกิดเหตุ ห่างจากสำนักร่างทรงประมาณ 1 กิโลเมตร พร้อมเอาถุงปุ๋ยคลุมเอาไว้และวางก้อนอิฐทับไว้เพื่ออำพรางคดี กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมตัวได้ดังกล่าว
ตลอดเวลาที่ทำแผนผู้ต้องหามีสีหน้าเรียบเฉย และไม่ตอบคำถามใด ขณะที่จากการสอบประวัติอาชญากรรมพบว่า ผู้ต้องหาเคยต้องโทษคดีลักทรัพย์และยาเสพติด ก่อนจะพ้นโทษออกมาและมาเปิดสำนักทรงเจ้าดังกล่าว
CR:pptvthailand.com
หางานตามสาขาอาชีพ
JOBBKK.COM © สงวนลิขสิทธิ์ All Right Reserved
jobbkk มีเพียงเว็บเดียวเท่านั้น ไม่มีเว็บเครือข่าย โปรดอย่าหลงเชื่อผู้แอบอ้าง และหากผู้ใดแอบอ้าง ไม่ว่าทาง Email, โทรศัพท์, SMS หรือทางใดก็ตาม จะถูกดำเนินคดีตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด